R.HAAN “ อาหารชาววังฤดูร้อนสุดสัปดาห์ Royal Summer – Weekend Exclusive”

หน้าร้อนนี้เราสองคนก็ยังคงวนเวียนกับการตระเวณชิมข้าวแช่กันไปกันมาหลายที่แล้ว เจอเด็ดบ้างไม่เด็ดบ้างคละเค้ากันไปนะคะ แต่มีร้านนึงที่ทันทีที่เราเห็นรูปแล้วรู้สึกอยากไปชิมมากกกกกกกก นั่นคือข้าวแช่น้ำแร่ชาววังของร้าน R.HAAN

ร้าน R.HAAN นี้เป็นร้านอาหารไทยแบบ Fine Dining อยู่ที่ซอยทองหล่อ 9 และในช่วงเวลานี้ถึงวันที่ ๙ มิถุนายน เฉพาะเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เค้าจะมี “ อาหารชาววังฤดูร้อนสุดสัปดาห์ Royal Summer – Weekend Exclusive” ที่เชฟ ชุมพล แจ้งไพรเชฟระดับรางวัลมิชลินสตาร์ ๑ ดาวคัดสรรวัตถุดิบจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยมาปรุงแต่งอาหารไทยต้นตำรับชาววังได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันนี้เราจึงตั้งใจมาลองทานข้าวแช่ชาววังของที่นี่กันนะคะ

ร้าน R.HAAN เป็นร้านอาหารไทยที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘ในน้ํามีปลา ในนามีข้าว’ ที่ทำให้ให้เราได้เห็นความสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ผ่านการถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่นจนถึงทุกวันนี้ ที่นี่นำเสนอเมนูอาหารที่แสดงถึงศิลปะและวัฒนธรรมของอาหารไทย และยกระดับอาหารไทยให้สู่ความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อให้อาหารไทยคงอยู่และสืบสานต่อไป

ที่ตั้ง : ทองหล่อ๙ ทางร้านมีที่จอดรถอยู่พอประมาณ และมีบริการ Valet Parking ด้วย

เมื่อเราเดินผ่านเข้าไปจะเจอป้ายรางวัล มิชลินสตาร์ (Michelin star) ระดับ 1 ดาว ประจำปี 2562 หรือร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การ แวะชิม ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ร้านใหม่ที่เพิ่งจะได้รับดาวมิชลินครั้งแรกในปีนี้

เมื่อเข้ามาถึงพนักงานจะให้นั่งในส่วนต้อนรับก่อน

ให้เราได้สั่งเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยพร้อมเสริฟ์ข้าวตังทรงเครื่องแผ่นบางๆที่อร่อยดีทีเดียว

น้ำส้มคั้นสดซึ่งทำมาจากน้ำส้มคั้นจากส้มแท้ๆไม่ใช่เทจากกล่อง ดื่มแล้วสดชื่นมาก

และน้ำคลอโรฟิลล์ใบเตยหอม

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งแบบสบายๆ แนะนำว่าถ้าจะมาควรโทรจองก่อนค่ะ

เมนูที่ตั้งใจมาทานในวันนี้ เป็นเมนู “ อาหารชาววังฤดูร้อนสุดสัปดาห์ Royal Summer – Weekend Exclusive”

ซึ่งเป็น A La Carte ประมาณ 25 เมนูให้เลือกสั่ง

เราเริ่มกันที่ Appetizers จานแรกเป็น ยำส้มโอ ๒๙๐.- บาท

เชฟนำส้มโอขนาดย่อมมาแกะเนื้อออก เก็บเปลือกไว้เป็นภาชนะ นำส้มโอที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆไปคลุกเคล้าเครื่องยำ รสชาติกลมกล่อม ทานแล้วรู้สึกสดชื่นดีค่ะ

จานต่อมาเป็น ไส้กรอกปลาแนมชาววัง ๓๕๐.- บาท จานนี้วิธีการเสริฟ์ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ เสิร์ฟมาในรูปแบบรมควันหอม และตัวไส้กรอกปรุงรสชาติมาพอดี

ปลาแนมทำมาจากนำข้าวสวยไปตากแล้วคั่วป่นกับเนื้อปลา

เวลาทานๆคู่กับไส้กรอกและใบชะพลู ถ้าชอบเผ็ดใส่พริกขี้หนูไปด้วยรสชาติจะเปรี้ยวๆหวานๆและมีเผ็ดแทรกนิดๆ

หมี่กรอบชาววัง ๓๕๐.- บาท โดยส่วนตัวแล้วชอบหมี่กรอบสูตรของเชฟชุมพลมากอยู่แล้ว รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวเป๊ะๆ เคยมีโอกาสไปเรียนวิธีการทำมาด้วย รู้เลยว่ากว่าจะออกมาเป็นจานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องพิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอนจริงๆ

และจานนี้เสริฟ์มาพร้อมกุ้งแม่น้ำเผา ทำให้จานนี้เลอค่ายิ่งขึ้นไปอีก

และ Appetizers จานสุดท้ายที่ตั้งใจมาจากบ้านว่าจะมาทานคือ แตงโมปลาแห้งสิงห์บุรี ๒๑๒.- บาท อีก ๑อาหารจานโปรดในฤดูร้อนของเรา เชฟชุมพลเน้นว่าต้องปลาช่อนแดดเดียวจากสิงห์บุรีเท่านั้น

แตงโมสีแดงลูกกลมๆ พอดีคำเสิร์ฟกับปลาแห้งที่รสชาติกำลังเหมาะ เนื้อปลาแห้งที่เชฟทำ มีความปุย เบาและมีรสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น ชื่นใจมากๆ

Main Dish

ความตั้งใจที่มาที่นี่อยู่ที่ ข้าวแช่น้ำแร่ชาววัง สำรับนี้ ๗๑๒.-บาท ข้าวแช่น้ำแร่ชาววังตำรับเชฟชุมพลจัดเสริฟ์ได้สวยงามน่ารับประทานไม่แพ้ตำรับไหน เริ่มจากการนำข้าวหอมอุบลเก่า มาซาวน้ำ ๕ รอบแล้วนำไปหุงด้วยน้ำแร่ลอยดอกมะลิและดอกชมนาดให้สุกระดับหนึ่งแล้วเอาไปนึ่งต่ออีกจนสุก ทั้งดอกมะลิและดอกชมนาดเป็นดอกไม้ออแกนิกปลอดภัยไร้ยาฆ่าแมลง

ส่วนเครื่องเคียงทั้งพริกหยวดสอดไส้ ลูกกะปิ หมูหวาน ไชโป๊ว หอมแดงสอดไส้ก็ทำอย่าพิถีพิถัน เป็นการทานข้าวแช่ที่ชื่นใจมากค่ะ และถ้าหากข้าวไม่พอขอเติมได้ตลอดนะคะ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆสำหรับข้าวแช่น้ำแร่ชาววังสำรับนี้

จานต่อมาเป็นขนมจีนน้ำพริก ๔๕๐.- จานนี้เป็นสูตรเก่าแก่ของคุณทวดสงวนศรีซึ่งสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุแล้ว นับได้ว่าเป็นขนมจีนน้ำพริกจานที่อร่อยที่สุดจานนึงเท่าที่เคยทานมาค่ะ เครื่องเคียงครบครันมาก

เครื่องเคียงในจานมีไข่ต้ม หัวปลี ใบกระถิน ก้านผักบุ้งลวก ผักชุบแป้งทอด กุ้งฝอยชุบแป้งทอด และถ้าจำไม่ผิดเป็ยมะม่วงซอยค่ะ

แต่ละคำที่ทานไปจะมีหลายรสสัมผัสทั้งกรอบ หวาน เปรี้ยว เผ็ด (พริกแห้ง) ..

ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ๖๘๐.- บาท เสริฟ์มาพร้อมกุ้งแม่น้ำเผาขนาดกำลังดี ดูมันกุ้งซิ… รสชาติของผัดไทยไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลยนะคะ เป๊ะมากอยู่แล้ว

และจานหลักจานสุดท้ายอาจดูไม่เข้าพวก แต่ถ้ามีโอกาสขอให้สั่งค่ะ ไข่พะโล้คุณย่า ๓๙๐.- คำแรกที่ตักเข้าปากไปเหมือนมีอะไรบางอย่างดึงกลับไปหาอดีตที่คุณย่าทำไข่พะโล้ให้ทานแบบนั้นเลยค่ะ

ไข่พะโล้รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องรากผักชี กระเทียม พริกไทย ไม่ใช่กลิ่นเครื่องพะโล้แบบในปัจจุบัน เคี่ยวจนเข้าเนื้อไข่ต้มเป็นสีน้ำตาลมีความหนึบนิดๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆแค่นั้นจบเลย

มาถึงของหวานปิดท้าย ไอศกรีมกะทิสดกระเทาะเปลือกทรงเครื่องกล้วยไข่เชื่อม ๒๕๐.- บาท จานนี้ทั้งอร่อยและการพรีเซนท์สวยงาม

กล้วยไข่เชื่อมมาแบบกำลังดี ทานคู่กับไอศกรีมกะทิสดจะมีความเข้ากันมากถึงมากที่สุด

ลอดช่องแตงไทยตาลโตนดกะทิสด ๑๘๐.-บาท

สำหรับเราเมื่อทานไอศกรีมกะทิสดกับกล้วยไข่เชื่อมไปแล้ว ลอดช่องแตงไทยตาลโตนดกะทิสด ความอร่อยของเราเลยดรอปลงไปนิดนึง เพราะเจอจานโน้นที่เข้มข้นครบรสกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นการปิดท้ายมื้อที่มีความสุขนะคะ