close
000

 * ~ * … 137 PILLARS Suites & Residences  Bangkok สวรรค์ใจกลางสุขุมวิท … * ~ * 

เวลาที่เรารู้สึกอยากพัก อยากไปเที่ยว เรามักมุ่งนึกถึงการเดินทางไปต่างจังหวัด หรือไปต่างประเทศกันตลอด โดยเราอาจมองข้ามที่พักดีดีใกล้ๆที่เราไม่ต้องเดินทางไกล ไม่ต้องขับรถหลายๆชั่วโมง หรือแบกกระเป๋าไปขึ้นเครื่องบินเพื่อใช้เวลาเดินทางอีกนานๆกว่าจะถึงจุดหมาย เราเลยหาที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการการพักผ่อน ความต้องการการผ่อนคลายของเราได้โดยเราไม่ต้องไปไหนไกล ในที่สุดเราก็เจอ…อยู่กลางสุขุมวิทนี่เองค่ะ

137 PILLARS Suites & Residences Bangkok เป็นที่พักที่เราเลือกสำหรับการพักผ่อนของเราในครั้งนี้ ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่อยากให้ค่อยๆดูรีวิวตามเราไปแล้วจะเข้าใจค่ะ

ที่ตั้ง: สุขุมวิทซอย 39 ( ซอยพร้อมพงษ์) คลองตันเหนือ วัฒนา

หาไม่ยากเลยค่ะเราทะลุมาจากทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้างๆตึกอิตัลไทย ตรงมาเรื่อยๆก่อนออกไปปากซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมพงษ์) ซึ่งมีห้าง EmQuartier และ BTS พร้อมพงษ์ตั้งอยู่ 137 PILLARS Suites & Residences Bangkok อยู่ทางซ้ายมือ ที่นี่ถือว่าเป็น 1 ใน Hidden Gems ของกรุงเทพในความคิดของเราเลยนะคะ

 137 Pillars Suites & Residences Bangkok เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ในเครือ 137 Pillars ที่แรกคือ 137 Pillars House ซึ่งเป็นโรงแรมบูติกที่เก๋มากๆในเชียงใหม่ ที่นั่นเริ่มกำเนิดจากการที่อยากจะมีบ้านพักเล็กๆสำหรับวันหยุดที่เชียงใหม่ของเจ้าของ จนไปเจอบ้านเก่าซึ่งมีประวัติอันยาวนานเข้าหลังหนึ่ง เคยเป็นของบริษัทบริติช บอร์เนียวในสมัยก่อน เลยตกหลุมรักเข้าอย่างจริงจัง แต่พื้นที่บ้านนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นบ้านพักเล็กๆ 137 Pillars House จึงถูกสร้างขึ้นมาเป็น Luxury Boutique Hotel ค่ะ

137 Pillars Suites & Residences Bangkok ได้นำเอาจุดเด่นๆของที่เชียงใหม่มาใช้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบห้องสวีทขนาดใหญ่ ระเบียงขนาดกว้าง ทุกๆส่วนของห้องจะถูกออกแบบโดยคำถึงการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากที่สุด และรวมไปถึงความร่มรื่นของสวนในมุมต่างๆของโรงแรม รวมถึงใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในประวัติศาสตร์ของที่เชียงใหม่ไว้ที่นี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชือห้องอาหาร BANGKOK TRADING POST BISTRO & DELI ซึ่งมาจากกิจการค้าไม้ของบริษัทบริติช บอร์เนียว JACK BAIN’S BAR เป็นชื่อของคุณลุงที่เคยอาศัยในบ้านหลังนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม หรือ Leonewens Club ก็มาจากชื่อของ Louis T. ลูกชายของ Anna Leonowens (หรือที่คนไทยและ ทุกคนทั่วโลกรู้จักกันในนามแหม่มแอนนาจากนิยายเรื่อง Anna and The King of Siam นั่นเอง) ผู้จัดการบริษัทสาขาเชียงใหม่คนแรก ของบริษัท บริติช บอร์เนียว นั่นเองค่ะ

ที่พักของที่นี่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Suites จำนวน 34 ห้อง และ Residences จำนวน 179 ห้อง เราจะขับรถมาเอง หรือจะใช้บริการ Limousine เกร๋ๆก็ย่อมได้

มาดูบรรยากาศที่ Lobby ชั้น 1 กันค่ะ สำหรับ Residences สามารถเช็คอินกันตรงนี้เลยนะคะ

แต่เนื่องจากห้องที่เราจองมาเป็นห้อง Suites พนักงานเลยพาขึ้นมาเช็คอินที่ชั้น 26 “LEONOWENS Club”

ที่นี่จะเป็นที่เช็คอิน-เช็คเอาท์ของแขกห้อง Suites ทั้ง 36 ห้อง มีบริการชา-กาแฟ/ Afternoon Tea/ อาหารเช้า/ Pre-dinner cocktails และที่นี่เราจะได้พบกับ Butler Service ซึ่งจะคอยดูแลตลอดการเข้าพักค่ะ

ห้อง Suites ที่นี่มี 4 แบบ
– ห้องสวีทสุโขทัย ห้องสวีทแบบ 1 ห้องนอนในแบบเตียงนอนเดี่ยว หรือเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์พื้นที่ขนาด 70 ตารางเมตร
– ห้องสวีทอยุธยา ห้องสวีทแบบ 1 ห้องนอนในแบบเตียงนอนเดี่ยว หรือเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์พื้นที่ขนาด 95 ตารางเมตร
– ห้องสวีทธนบุรี ห้องสวีทแบบ 1 ห้องนอนที่มีระเบียงขนาดใหญ่หันหน้าไปทางถนนสุขุมวิทพื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตร
– ห้องสวีทรัตนโกสินทร์ ห้องสวีทแบบ 2 ห้องนอนพร้อมด้วยห้องอาหารส่วนตัวและบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ขนาด 127 ตารางเมตร

และเราจะพักกันที่ห้องสวีทอยุธยากันค่ะ เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่น ดูทีวี ทานอาหาร มี Maxi Bar (ใหญ่กว่า Mini Bar) และห้องน้ำอยู่ทางด้านหลังค่ะ

มีประตูกั้นระหว่างห้องนอน

ระเบียงนั่งชมวิวสุขุมวิท

เตียง หมอน ที่นอน อุปกรณ์ดีมาก เป็นอีกที่ที่เตียงดูดวิญญาน หลับสบาย

ห้องน้ำกว้างขวาง

ในห้องจะมีโทรศัพท์ให้ใช้ได้ฟรี แขกสามารถนำติดตัวเวลาไปไหนมาไหนในกรุงเทพได้เลยนะคะ สำหรับเราใช้สำหรับการสื่อสารกับ Butler ค่ะ ไม่ว่าจะจองห้องอาหาร จองสปา สั่งอาหาร สาระพัดสิ่ง ถึงแม้จะไม่ใช่ Butler ที่อยู่กับเรา 24 ชั่วโมง แต่ก็ทำให้เราเซอร์ไพรซ์ได้หลายเรื่องเลยนะคะ ที่ประทับใจที่สุดน่าจะเป็นเรื่องที่ แป้นรองจมูกของแว่นเกิดหักกระทันหัน Butler เห็นเข้าพอดีเลยขอเอาไปซ่อมให้ค่ะ ซึ่งเราเองก็งงว่าจะซ่อมได้หรือ น่าจะต้องมีเครื่องมือ ปรากฏว่า Butler หายไปพักหนึ่ง กลับมาพร้อมแว่นที่ซ่อมเรียบร้อยสมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ปกติจนวันนี้เลยค่ะ…สุดยอด

และทุกคืนก่อนนอนทีม Butler จะมีขนมเล็กๆน้อยๆมาเสริฟ์ให้เราหลับฝันดีค่ะ

ช่วงบ่ายๆหลังเช็คอินเรามีนัดกับ Afternoon Tea ค่ะ ได้ข่าวมาว่า Afternoon Tea ของที่ 137 Pillars Suites & Residences จัดเต็มมากๆ Butler ถามว่าเราจะทานที่ LEONOWENS Club หรือที่ห้องอาหารนิมิตร (Nimitr) เราเลือกที่ห้องอาหารนิมิตรค่ะ เพราะแสงกลางวันห้องนี้สวยมาก

ห้องอาหารนิมิตรอยู่ที่ชั้น 27 ค่ะ ห้องนี้เปิด 2 รอบคือ 12:00 – 15:00 น. และ 18:00 – 22:00 น. สำหรับอาหารกลางวันและอาหารค่ำ แต่เรามาทาน Afternoon Tea กันตรงนี้

ที่ห้องอาหารนิมิตรนี่ มีความสวยงาม หรูหรา เหมาะกับการจิบชาจริงๆ

ดู Afternoon Tea สิน่ากินสุดๆ เซ็ตนี้สำหรับ 2 ท่านนะคะ แต่ถ้าทานหมดนี่รับรองว่าอิ่มถึงเย็นแน่ๆค่ะ

ราคา 750++/คน. ในเซ็ตนี้สำหรับ 2 คน มาดูกันชัดๆค่ะ ถ้ามาคนเดียวขนมตัดออกครึ่งนึง

ขนมพวกนี้ถามว่าอร่อยไม๊…ตอบเลยว่ามากกกกกกค่ะ ทานไปเยอะอยู่ 555+++ ส่วนชาที่เสริฟ์เป็นชา Organic ที่เป็นของเฉพาะ 137 Pillars เองนะคะมีให้เลือกหลากหลายค่ะ ของเราวันนี้เป็นอัญชัน สีสวยถูกใจ

สำหรับมื้อค่ำของที่ห้องอาหารนิมิตร บรรยากาศก็จะหรูหราขึ้นอีกกว่าตอนบ่าย เดินเข้ามาเจอตู้ไวน์ขนาดนี้ ….มาจากทุกมุมโลกเลย

ที่นี่จะเสริฟ์อาหารไทยร่วมสมัย และจะมีอาหารชาติอื่นๆอีกน่าสนใจหลายเมนู เชฟหลักเป็นเชฟมาจากอินโดนีเซียค่ะ อายุยังไม่เยอะ แต่ทำอาหารเก่งมาก แต่นอกเหนืออื่นใดคือบรรยากาศห้องนี้สวยมาก เหมาะกับวาระและโอกาสพิเศษจริงๆ ที่นั่งมีไม่มากไม่แน่นจนอึดอัดนะคะ จองมาก่อนก็ดีนะคะ

เอาล่ะเรามาเริ่มมื้อค่ำกันดีกว่า เริ่มจากเสริฟ์ไวน์กันก่อนเริ่มมื้ออาหารค่ะ

อาหารเรียกน้ำย่อยจานแรก UTSUKICHI TATAKI เป็นสไตล์ปลาดิบญี่ปุ่น

UTSUKICHI TATAKI

MANGROVE JACK ปลากระพง กับหอยเชลล์ฮอกไกโด

MANGROVE JACK ปลากระพง กับหอยเชลล์ฮอกไกโด

ANDAMAN WHITE TIGER PRAWNS กุ้งลายเสือย่าง

ANDAMAN WHITE TIGER PRAWNS กุ้งลายเสือย่าง

อาหารทุกจานมาจากวัตถุดิบที่ดี มีการปรุงแต่งไม่มาก อิ่มอร่อยกำลังดีค่ะ ลืมลองสั่งอาหารไทยมาชิมเลย ไว้โอกาสหน้าคงได้กลับไปลองใหม่ค่ะ

ไหนๆมาที่ชั้น 27 แล้วขอพาไปชมรอบๆพื้นที่เลย อยากบอกว่าแขกที่ไม่ได้พักที่นี่มาได้สบายๆค่ะ มาจิบชา ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ หรือทานอาหาร แล้วแวะถ่ายรูปกัน บนนี้มุมสวยๆถ่ายรูปเยอะมาก เป็นที่นิยมของสาวๆหลายคนที่แวะเวียนกันมาถ่ายรูป up ลง social กันรัวๆ ด้านนอกเป็น Marble Bar บริการเครื่องดื่มสาระพัด

เราชอบมุมนี้ที่สุด รู้สึกได้ถึงความโล่งสบายท่ามกลางตึกสูงรอบๆตัว อยากให้เวะมานั่งชิลล์กัน ช่วงเวลาที่ดีน่าจะเป็นบ่ายๆเย็นๆแล้วรอดูพระอาทิตย์ตกกันที่ตรงนี้

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของการขึ้นมาบนนี้คือถ่ายรูปกับมุมนี้ค่ะ วัดใจกันไป…ปล.ขอบคุณนางแบบนะคะ 🙂 🙂

กลางวันว่าสวยแล้ว บรรยากาศตอนเย็นยิ่งคึกคักค่ะ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะมาก มีช่วงเวลา Happy Hours ด้วยนะ drink กันไปแบบชิวๆ 😀

และถ้าเดินไปอีกนิดก็จะเจอสระว่ายน้ำ ซึ่งให้บริการสำหรับลูกค้าที่เข้าพักทั้ง Suites และ Residences

สระนี้จะสวยงามแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ จริงๆแล้วตรงนี้แขกจะค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ แต่นั่งรอเวลาถ่ายรูป กันอยู่นานกับตื่นเช้าตรู่ เลยได้รูปแบบไร้ผู้คนมาฝากนะคะ

แต่สำหรับผู้เข้าพักในส่วนของ Suites ยังมีสระว่ายน้ำอีกที่หนึ่งซึ่งอยู่ Rooftop ชั้นบนสุดของตึกนี้ ว่ายน้ำบนชั้น 33 กลางสุขุมวิท ฟินแค่ไหนนึกดูค่ะ

บนนี้มีบริการเครื่องดื่มด้วยนะคะ

เราชอบข้างบนนี้มาก ขึ้นมาอยู่วันละหลายๆรอบ

มานอนอ่านหนังสือตรงนี้ อยู่ได้นานๆเลยค่ะ

แขกของ Suites หมุนเวียนเปลี่ยนกันขึ้นมาบนนี้ มากสุดที่เจอไม่เกิน 3 คนค่ะ Private สุดๆ

บนชั้น 28 JACK BAIN’S BAR เป็นสไตล์แบบแมนๆ ดื่มวิสกี้ สูบซิกก้า

ส่วนมากแขกจะมานั่งดื่มกันก่อน หรือหลังอาหารมื้อค่ำกันนะคะ

ส่วนห้องอาหารชั้นล่างสุด BANGKOK TRADING POST BISTRO & DELI เราสามารถมองเห็นได้จากริมถนนเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ขับรถผ่านชอบมองดูร้านนี้ว่าสวยจัง

บรรยากาศสวย ร่มรื่น ต้นไม้เยอะดีค่ะ

BANGKOK TRADING POST BISTRO & DELI เปิดตั้งแต่เสริฟ์อาหารเช้าของผู้พักแบบ Residences (แต่ผู้ที่พักแบบ Suites จะมาทานด้วยก็ไม่ขัดข้อง) อาหารกลางวัน และอาหารเย็น

เป็นอาหารรวมมิตรของหลายๆประเภทอาหารทั้งของเอเชียและตะวันตก รวมไปถึงขนมปัง ขนมอบ ขนมเค้ก และมาจากหลายภาคของประเทศไทยด้วย

เรามาดูบรรยากาศอาหารเช้า ของห้องอาหาร BANGKOK TRADING POST BISTRO & DELI กันบ้าง

ส่วนอาหารกลางวันและเย็น เมนูหลักจะคล้ายๆกันแต่ไม่เป๊ะซะทีเดียว

เรามาเริ่มจากเครื่องดื่มเย็นๆกันก่อน

เริ่มจาก Grilled Quesadilla ไส้ข้างในเป็นไก่ ผักโขม และมอสซาเลล่าชีสทานกับ Sour cream และ Guacamole Dip

GRILLED QUESADILLA WITH SOUR CREAM & GUACAMOLE DIP

Tuna Tataki สลัดที่มีเมล็ดพืชผัก ผักสด มะเขือเทศ ทานกันทูน่า

TUNA TATAKI

Local River Prawns & Tuna Ceviche กุ้งย่างทานคู่กับทูน่า

LOCAL RIVER PRAWNS & TUNA CEVICHE

Butter Fish

BUTTER FISH

Fish & Chips

FISH & CHIPS

และขนมปังเสิร์ฟก่อนอาหารค่ะ อร่อยเชียว 😛

BREAD

แกงไก่มาในเซ็ตปิ่นโต พร้อมข้าวสวยและสลัด (แนวแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะ มีมะเขือเทศ ลิ้นจี่ด้วย)

CHICKEN CURRY IN PINTO SET WITH RICE & SALAD

Bouillabaisse ซุปทะเลค่ะ

BOUILLABAISSE

สปาเก็ตตี้หมึกดำผัดพริกกุ้ง

SPAGHETTI WITH BLACK PEPPER SHRIMP

Pizza Margherita

PIZZA MARGHERITA

Pizzaไส้อั่ว / Pizza ทะเล และ Fettucini Salmon บอกเลยนะ ห้ามพลาดเลยสำหรับ Pizza ไส้อั่ว มันสุดยอดมาก 😀

PIZZA SAI AUA/ PIZZA SEAFOOD AND FETTUCINI SALMON

มาดู Leonewens Club ชั้น 26 ในส่วนของอาหารเช้าที่เสริฟ์เฉพาะแขกห้อง Suites

เสริฟ์ Sparkling Wine กันแต่เช้าเลย

และมีไลน์อาหารแบบเบาๆ

อาหารเช้าที่นี่ค่อนข้างจะแนวสุขภาพนะคะ อร่อยทุกเมนู ทานเอาอิ่มได้เลยค่ะ

และในบางมื้อหากเราไม่ต้องการออกไปไหน ก็สามารถใช้บริการ Room Service ได้นะคะ ดูเมนูจากในห้องได้เลยแล้วบอก Butler เมนูที่ต้องการรวมทั้งระบุเวลาที่จะทาน

Butler เป็นคนมาเสริฟ์ที่ห้องค่ะ ดูแลอย่างดี

อาหารมื้อนี้มีผัดไทยกุ้ง Foie Gras และ ปลาหิมะค่ะ

ของหวานเป็น Rosella Panna Cotta ค่ะ ทานกันสบายๆในห้องพัก

ROSELLA PANNA COTTA

อิ่มแล้วเราไปเดินสำรวจห้องแบบอื่นๆกันเล็กน้อยค่ะ ห้องสวีทสุโขทัย

อ่างน้ำแช่ไปชมวิวไป

ห้องอาบน้ำปกติจะเป็นประตูปิดนะคะ แต่ห้องนี้พิเศษเพราะเป็นห้องสำหรับ Handicap จะเป็นทางลาดและผ้าม่านปิดแทนค่ะ

ห้องสวีทธนบุรี

สำหรับห้องในส่วนของ Residences ซึ่งมีประมาณ 179 ห้องนั้นจะเป็นห้องพักแบบ Long Stay หรือพักเป็นคืนแบบโรงแรมก็ได้นะคะ ราคาเป็นมิตรมาก Residences จะมีอุปกรณ์ครัว เตา รวมไปถึงเครื่องซักผ้า ห้องแบบ 2 ห้องนอนมีเครื่องล้างจานด้วยเลยค่ะ

ห้องเรสซิเดนซ์พิลลาร์ เอ็กซ์เซ็กคลูทีฟสตูดิโอ

ห้องเรสซิเดนซ์พิลลาร์ เอ็กซ์เซ็กคลูทีฟแบบสองห้องนอน เป็นที่นิยมมากในกลุ่มครอบครัวชาวต่างชาติ เพราะมีครัวด้วยแถมมีเซอร์วิสแบบโรงแรมทุกอย่าง

NITRA SPA & WELLNESS
นิทรา สปา & เวลเนส ให้บริการ Holistic Therapies ต่างๆ หลากหลาย การบำบัดด้วยการนวดด้วยเทคนิคดั้งเดิมของหลายเชื้อชาติ มีอาหารออร์กานิครสดีบริการ มีการออกแบบโปรแกรมและทรีตเม้นต์ดูแลร่างกายจิตใจสำหรับแต่ละบุคคล เน้นให้แขกสร้างความสมดุลในแบบเฉพาะตัว

ได้มีโอกาสไปใช้บริการสปาของที่นี่เป็น Sleep By Design Therapy เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลาย ปรับปรุงให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น มีการใช้เสียงเพลงช่วยในการบำบัดให้รู้สึกผ่อนคลาย ลูกค้าส่วนมากมักจะหลับไปในช่วงที่ Therapist ให้บริการ เมื่อเสร็จแล้วจะรู้สึกว่าร่างกายได้รับการฟื้นฟูค่ะ

Fitness แบบทานเยอะขนาดไหนก็ไม่หวั่นค่ะ (หราาา 😛 )

ที่ 137 Pillars Suites & Residences Bangkok มีโรงเรียนฝึกหัดกอล์ฟด้วยนะคะ แอบซ่อนอยู่ในตึกนี่เอง

ใครจะเชื่อว่ามีสนามฝึกพัตต์กอล์ฟในตึกด้วย

ตลอดเวลาที่พักที่ 137 Pillars Suites & Residences นี้เราสามารถใช้บริการคุณลุงไปที่ EmQuartier หรือไป BTS พร้อมพงษ์ได้นะคะ เช็คเวลาได้จากพนักงานเลยค่ะ

รีวิวยาวซักนิดนะคะ เพราะอยากให้เห็นในทุกๆมุมของ 137 Pillars Suites & Residences Bangkok ในแบบที่เราเห็นค่ะ ต้องขอขอบคุณ 137 Pillars Suites & Residences Bangkok ที่ทำให้วันพักผ่อนของเรามีช่วงเวลาดีดีนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวค่ะ

https://www.facebook.com/Alwaysgotogether

Tags : 137 Pillars HouselifestyleLuxury Boutique HotelSukhumvit

Leave a Response