Ardente II Ristorante Italiano เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ Chef มีความเชี่ยวชาญในเรื่องอาหารอิตาเลี่ยนมานานไม่แพ้ใคร ร้านอยู่ไกลสำหรับเราไปนิด แต่เมื่อได้ชิมอาหารตั้งแต่จานแรกก็รู้สึกคุ้มค่าแล้วกับการขับรถมาถึงนี่ และดีใจแทนคนที่บ้านอยู่ละแวกนี้ที่มีร้าน Fine Dining ดีๆมาอยู่ใกล้ๆบ้าน ไม่ต้องผ่ารถติดเข้ามาในเมืองด้วย ที่ร้านมีเสริฟ์ทั้งแบบ A La Carte หรือจัดเป็น Signature Set Menu สำหรับท่านที่อยากลองจานเด็ดของที่ร้านที่เลือกสรรมาแล้ว รวมทั้งมี Set Menu สำหรับมื้อเที่ยงวันธรรมดา และ Sunday Brunch เดือนละครั้งอีกด้วยค่ะ
วิธีเดินทางมายังร้านนะคะ มาไม่ยากเลย
บรรยากาศภายในร้าน แต่งได้อบอุ่น หรูหรา มีหลายมุมให้เลือก
หาที่นั่งแล้วมาดูเมนูกันนะคะ
Set Lunch วันธรรมดา
ก่อนอื่นใดขอ Mocktail อร่อยๆให้ชื่นใจก่อน
Signature Set Menu เป็น Testing Menu ที่เลือกเอาบรรดาจานเด็ดของที่นี่มารวมตัวกันให้เราชิมในราคาเต็ม 2000++ บาท แต่ตอนนี้มีโปรราคาที่ 1500++ บาทตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ เลือกได้คนละ 5 จาน นะคะจากเมนูนี้
แต่ก่อนอื่นใดชิมครัวซองค์ร้อนๆกันก่อนค่ะ
เค้าเสริฟ์เนยแบบไม่เกรงใจความอ้วนของคนกิน 5555++
Welcome Appetizer ซึ่งไม่ต้องเลือกค่ะ ได้ทุกคน Cold Pasta With Abalone sauce
พาสต้าเส้นเล็กสุด ราดซอสพอนซึกับสาหร่ายเสริฟ์แบบเย็นสร้างความสดชื่นมากเวลาทาน ทำให้ลืมถึงระยะทางที่ขับรถมาเลยค่ะ คุ้มค่ามาก
ทานคู่กับไวน์ขาวคือที่สุด..
Starter ให้เลือกระหว่าง Homemade Tofu withFoie Gras- Mushroom Truffle sauce
เต้าหู้เอาไปคลุกแป้งบางๆแล้วไปทอด ทานกับซอส Foie-Gras และ Truffle โรยปลาแห้งญี่ปุ่นด้านบน ทานทุกอย่างในจานพร้อมๆกันจะสัมผัสความฟิน
Starter อีกจานคือ Hokkaida Scallop Sauteed with white wine garlic sauce
หอยมากันแบบตัวใหญ่และสดมากๆ ซอสอร่อยจนแทบจะขอขนมปังมาป้ายทานให้เกลี้ยงค่ะ
Soup เลือกระหว่าง Mushroom Truffle Soup
หอมทรัฟเฟิลมากๆ ดูจากซุปจะรู้ว่าเค้าใส่ไม่ยั้ง ทานกับขนมปังอบเนยชิ้นเล็กๆที่มาด้วยกัน เวลาที่ขนมปังดูดซุปเข้ามาฉ่ำๆแล้วเราเอาเข้าปากนั้น มันคือดีมากค่ะ
อีกจานจะเป็น Lobster Bisque Soup ซึ่งต้องยอมรับตรงนี้ว่า เมื่อชิมซุปทรัฟเฟิลไปก่อนหน้าจะทำให้จานนี้ drop ความเข้มข้นลงไป แต่ถือว่าเป็น Lobster Bisque ที่อร่อย หอมไม่เป็นรองใคร
มาถึง Main Course จานแรก Australian Wagyu Beef Striploin Steak
เนื้อ Wagyu A4 นุ่มละมุน ความสุกมาแบบกำลังดี
จานที่ 2 คือ Cannadian Lobster Tail
เสริฟ์มากับเส้น Angle Hair ตัว Lobster Tail เนื้อสุกกำลังดี เด้ง สด หวานค่ะ
Snow Fish
จานนี้โปรดมาก เนื้อปลามาได้สีสวยลายสวยงามสุกกำลังดี มีมันบดเนื้อเนียนละเอียดอยู่ด้านใต้ผัก ตัวซอสมีส่วนผสมของ ยูซุ ทรัฟเฟิล ไวท์ไวน์ เลมอน พอนซึ เนื้อปลานุ่มอร่อย ตัวซอสนั้นอร่อยเข้มข้นมากๆ
จานสุดท้ายที่ให้เลือกคือ Braised Lamb Shank with Red Wine sauce เนื้อแกะตุ๋นมาจนเปื่อย ไม่มีกลิ่น ซอสที่ราดมานั้นเข้มข้น
4 main courseนี้เป็นตัวเลือกที่เลือกค่อนข้างยากค่ะเพราะดีทุกจานเชียว ชอบอะไรก็เลือกแบบนั้นนะคะ
มาถึงของหวานกัน
มีให้เลือก 2 จาน
Warm Chocolate Fondant
และ Coffee Crème Caramel ค่ะ
มาถึงทีเด็ดของร้านอีกอย่างก็จะเป็น Australian240 days Grain Fed Tomahawk Steak ที่ราคาปกติ 3500 / กิโลกรัม ช่วงนี้ถึง 15 ธันวาคม จะราคาพิเศษที่ 2500/กิโลกรัม และพิเศษสุดสำหรับผู้ถือบัตรสมาชิกของ Ardente จะได้ไวน์แดงฟรีไปอีก 1 ขวด
ชิ้นที่เสริฟ์นี้หนัก 1.6 กิโลกรัมค่ะ
ย่างบนเตาถ่านมาสุกกำลังดีเลย…
Ardente Pizza พิซซ่าพับที่มีด้านในเป็นเห็ดทรัฟเฟิล Mascapone Cheese และแฮม 450 บาท
ยืดดดดดดดดด..
Burrata ชีส Mozzarella ทำจากนมควาย เสริฟ์กับ Parma Ham และมะเขือเทศ อร่อยในราคา 650 บาท
จานนี้เด็ด แต่ไม่มีในเมนู เป็น Truffle Mushroom Risotto ใส่ Hokkaido Scallop ราคา 890 บาท
มันคือการรวมตัวของวัตถุดิบขั้นสุดยอดมาอยู่ในจานนี้นะคะ
ปิดท้ายอย่างจริงจังที่ของหวานจานนี้ Apple Tarte Tatain ทานกับไอศกรีมวานิลา จานนี้ใช้เวลาอบ 15 นาทีค่ะราคา 450 บาท
หลายๆจานที่ได้ชิมไปในวันนี้โดยรวมถือว่าอร่อยทุกจาน วัตถุดิบดี รสมือดี เหมาะกับเป็นร้านอาหารของครอบครัวโดยแท้จริง Sunday Brunch ที่นี่ 1500 บาทเน็ตก็น่าไปลองมาก ถ้าบ้านอยู่แถวนั้นไม่ต้องขับรถมาหา Sunday Brunch ในเมืองหรอก ทานที่นี่แหละค่ะ อร่อยเลอค่าแล้ว..จริงๆ